รีวิวหนัง The Rock ใน The Rundown (2003) โคตรคนล่าขุมทรัพย์ป่านรก

ตั้งแต่สมัยที่ The Rock เริ่มเข้าวงการแสดงในเรื่อง The Scorpion King นั้น The Mummy Returns เป็นแค่นักแสดงรับเชิญเท่านั้นแต่สำหรับเรื่องหลังมานี่ค่อยจะมาแสดงแบบเต็มตัวครับ และตั้งแต่ตอนนั้นก็มีแนวโน้มสูงมากๆ ที่พี่เขาจะโด่งดังเจริญรอยตามพี่บึ้กรุ่นเดอะ อย่าง Arnold Schwarzenegger กับ Sylvester Stallone ขอเพียงเขาเลือกบทที่ถูกทางสักหน่อยเป็นใช้ได้ และสำหรับก้าวต่อมา (ในยุคแรกๆ) ของเขาใน The Rundown (2003) ก็จัดได้ว่าเข้าท่ามากๆ ครับ

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ The Rock รับบทเป็น “เบค” นักล่ารับจ้างที่รับงานทวงหนี้ไปจนถึงตามคน และงานล่าสุดที่เขาได้รับมาก็คือการตามหาลูกชายตัวแสบ ของเจ้านายของเขขาที่ชื่อ “เทรวิส” ที่ต้องไปตามไกลถึง เอล โดราโด้ ส่วนลึกของป่าอะเมซอนและที่นั่นเขาต้องเผชิญกับเจ้าถิ่นจอมโหดอย่าง “แฮทเชอร์” แล้วยังต้องเจอกับมา “เรียน่า” แต่เหนืออื่นใดสำหรับการผจญภัยครั้งนี้ก็คือ ภายในเอล โดราโด้นี้มีขุมทรัพย์มหาศาลแอบซ่อนอยู่

พระเอกของเราก็เลยต้องทั้งลุย ทั้งซัด ทั้งเจอพวกกวนบาทาสารพัด จนกว่าจะจบนี่ก็เล่นเอาเหนื่อยไปไม่น้อยเลยเรื่องนี้นับว่าใช้ได้เลยครับ ถือว่า The Rock เลือกเล่นหนังเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม เพราะบทมันเป็นพระเอกแบบไม่ต้องแสดงอารมณ์อะไรมากมาย ตามสูตรพี่อาร์นี่กับพี่สไลเลยล่ะ แค่มาบึ้กๆ พร้อมคำพูดคมๆ ติดปากไว้ บวกกับฉากแอ็กชันมันส์ๆ หนังฝรั่ง ก็ถือได้ว่าทำออกมาได้ลงตัวเป็นอย่างดี


Scott ก็ขี้มาดและพูดมากป่าแทบแตก ไม่ว่าจะเล่นกี่เรื่องก็แบบนี้ทุกที แต่จะว่าไปบทที่ยอดเยี่ยมของเขามันต้องออกเชิงตลกลามกหน่อยๆ แบบ American Pie นี่แหละตรงแบบสุดๆ กับเรื่องนี้พี่แกลามกน้อยไปนิดครับ แต่ก็เอาเถอะ จะไปลามกในเรื่องมันก็ใช่ที่ รสชาติหนังอาจจะแปร่งไปเลยก็ได้ เอาเป็นว่าเขาก็ทำหน้าที่ได้เรื่อยๆ โดยรวมแล้วก็ถือว่าโอเครกับบทนี้เลยทีเดียว ตัดมาที่ Walken ก็มามาดชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ชั่วร้ายเต็มสตรีมอยู่แล้ว โหดนิ่มแบบแฝงรอยยิ้มนี่สบายใจได้ครับ ป๋าเขาเล่นได้ดีเสมอ ส่วนนางเอกของเรื่อง Dawson ก็ยังไม่เด่นมากเท่าไหร่


Peter Berg ผันตัวเองมานั่งแท่นกำกับเอง ซึ่งตอนนี้เขากลายเป็นผู้กำกับที่ฝีมือวางใจได้คนหนึ่งไปแล้วครับ ในขณะที่เรื่องนี้เป็นผลงานหนังโรงชิ้นที่ 2 ของเขา (ต่อจากหนังตลกร้ายสายโหดอย่าง Very Bad Things) สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นแอ็กชันเอามันส์เต็มตัว ทำได้น่าติดตามในระดับหนึ่ง ฉากในป่าถ่ายออกมาได้สวยดีครับ อีกอย่างรู้สึกว่าแพี่เขาจะชอบช็อตมุมกว้างนะ ประเภทลากกล้องยาวๆ ถ่ายจากมุมสูงๆ อะไรทำนองนั้น ซึ่งก็เหมาะกับหนังทีเดียวครับ เป็นผู้กำกับอีกคนที่ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้ดีคนหนึ่งเลยล่ะ ซึ่งในจุดนี้ก็ต้องขอชมผู้กำกับภาพ Tobias A. Schliessler ด้วยที่สามารถจับภาพมาได้เหมาะแบบนี้ (และถัดจากเรื่องนี้พวกเขาก็ได้ร่วมงานกันต่อใน Friday Night Lights, Lone Survivor แล้วก็ Patriots Day แม้จะไม่ถึงขั้นคู่บุญ แต่ก็ถือว่าทำงานได้เข้าขากันครับ)
ตอนแรกได้ข่าวว่า Stephen Sommers ผู้กำกับ The Mummy 2 ภาคแรกจะมาทำครับ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจไปทำ Van Helsing แทน


สรุปแล้ว The Rock ใน The Rundown (2003) จัดเป็นหนังบู๊เอามันส์ครับ สาระไม่ต้องไปคำนึง เพราะไม่ค่อยมี ดูให้มันส์ พอให้เลือดสูบฉีดเป็นพอ ฉากตีกันตอนไคลแม็กซ์ที่เล่นเอาเมืองพังไปเป็นแถบๆ นั่นก็เมามันส์กำลังดี ระเบิดกระสุนงี้ปลิวว่อนไปหมด แต่รู้สึกเสียดายนิดหน่อยตรงฉากขุมทรัพย์ที่ดูธรรมดาไปเกินคาดไปนิด ต้นเรื่องน่าสนใจมีความตลก คือการโผล่มารับเชิญของพี่บึ้กอาร์โนลด์ มาอวยพร The Rock เราประมาณว่า “ขอให้สนุกนะ” ก็เป็นฉากที่น่ารักดี


ในแง่รายได้นั้นถือว่าทำเงินไม่เข้าเป้าสักเท่าไร อาจจะเรียกว่าเจ๊งก็ได้ ตัวหนังทำเงินทั่วโลกไปประมาณ $80 ล้าน แต่ทุนสร้างนั้นปาเข้าไป $85 ล้านครับ ก็เรียกได้ว่าเป็นหนังขาดทุนอีกเรื่องหนึ่งในปี 2003 ที่ผ่านมาแล้วหลายปี