10 ข้อที่ควรรู้ก่อนดูซีรีส์ House of the Dragon (2022) รวมไปถึงคนที่ยังไม่เคยดู Game of Thrones มาก่อน หรือสำหรับคนที่ได้ดูไปแล้วใน 2 ตอน ล่าสุด
- House of the Dragon จะเป็เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนซีรีส์ Game of Thrones ราวๆ 200 ปี โดยจะโฟสกัสเรื่องราวที่ที่ตระกูลมังกร Targaryen และความขัดแย้งที่นำไปสู่สงครามกลางเมือง ‘มังกรเริงระบำ’ ที่ส่งผลให้มังกรสูญพันธุ์และบทบาทของตระกูลดิ่งลงเหว สงคราม Targaryen vs. Targaryen จะมีการเล่าเรื่องราวที่รวดเร็วจนอาจจะทำให้เกิด pacing ที่ไม่คุ้นชินบ้าง วันเวลามีการข้ามไปอย่างรวดเร็วซึ่งจะต่างกับซีรีส์ Game of Thrones อย่างเห็นได้ชัด
- ความยาว (ep.) ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยซีซั่นที่ 1 จะมีทั้งหมด 10 ep. และมีแพลนจะสร้างต่ออีกหลายซีซั่น รอเพียงการอนุมัติเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่จะเป็นซีรีส์ที่จะจบเรื่องราวในซีซั่นอีกด้วย เพื่อซีซั่นอื่นๆจะได้โฟกัสเรื่องราวใหม่ของเหตุการณ์และตัวละครในช่วงเวลาอื่นๆ
- เนื้อเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้มีการดัดแปลงมาจากหนังสือ Fire & Blood ของ George R. R. Martin ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของ Targaryen ในหลายๆ generation ผ่านบันทึก Grand Maester สบายใจได้เลยว่าตัวซีรีส์จะมีเนื้อเรื่องที่แข็งแรงอย่างแน่นอน เพราะมี ต้น กลาง ปลาย ภาพรวมต่างๆรวมถึงปลีกย่อยในหนังสือหมดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลาของ Viserys ที่ 1 เป็นต้นไปจนถึงศึกมังกรเริงระบำ ที่ค่อนข้างจะมีความละเอียดครบถ้วน
- ซีรีส์นี้ยังได้รับการอำนวยการสร้างโดย George R. R. Martin ร่วมกับ Ryan J. Condal (คนเขียนบทหนัง Rampage) และยังได้ Miguel Sapochnik ผู้กำกับอีพี Hard Home กับ The Battle of the Bastards มากำกับอีกด้วย ซึ่งการที่ได้ผู้แต่งมาร่วมกำกับซีรีส์เองสามารถรับกันคุณภาพได้อย่างแน่นอน เพราะผู้แต่งจะรู้ว่าส่วนไหนควรเก็บไว้ เพิ่มเติม หรือตัดออก
- ทุนสร้าง 15-20 ล้านดอลล่าร์ต่ออีพี (ประมาณ 500-700 ล้านบาทต่อแค่ 1 อีพี) โดยใช้ทุนสร้างทั้งหมดในซีซั่นนี้อยู่ที่ 200 ล้านดอลล่าร์
- ซีรีส์เรื่องนี้จะมีมังกรปรากฏตัวทั้งหมด 17 ตัว โดยซีซั่นแรกจะปรากฏตัว 9 ตัว และยังมีการปรับดีไซน์ให้มังกรมีลักษณะเด่นชัด ด้วยหน้าตา สี แววตา (ที่บ้องแบ๊ว) บาดแผล และรูปร่างรูปทรง เพื่อให้คนดูแยกออกว่ามังกรตัวไหนเป็นตัวไหนและมีเอกลักษณ์ต่างกันในแต่ละตัว ซึ่งต่างจากซีรีส์ Game of Thrones ที่มังกรแต่ละตัวแทบไม่ต่างกันแต่จะต่างเฉพาะสี
- ซีรีส์จะเป็นแนวครอบครัวดราม่ากลิ่นอายแบบเชคสเปียร์ หรือกลับไปสู่รากเหง้าของความเป็น Game of Thrones ที่บอกเล่าเรื่องราวเกมการเมืองชิงบัลลังก์เหล็กอีกครั้งและมีความเป็นโศกนาฏกรรมที่เรียลและไม่ได้ตามใจคนดูนัก แต่แตกต่างตรงที่ House of the Dragon จะโฟกัสที่ดราม่าครอบครัวเหมือนซีรีส์ Succession ซึ่งจะเป็นแบบศึกภายใน ความขัดแย้งกันเองที่จะทำให้ศึกภายนอกเข้ามาแทรกแซงได้ เหมือนดั่งคำโปรยในตอนแรกที่ว่า “ไม่มีใครโค่นตระกูล Targaryen ได้นอกจากตัวของมันเอง”
- ในเรื่องนี้ตัวละครแต่ละตัวสามารถตายได้หมดซึ่งจะต่างกับ Game of Thrones ตรงที่ไม่มีตัวละครคนดีแบบตระกูล Stark หรือตัวละครที่ใครๆก็ชอบอย่าง Arya แต่จะเต็มไปด้วยตัวละครสีเทาที่มีมิติและความเป็นมนุษย์สูง ไม่มีใครดีใครชั่ว 100% ดี 100% ตัวละครน่ารังเกียจหรือชั่วร้ายเราอาจชอบ ตัวละครที่ดีเราก็อาจจะไม่ชอบ
- Ramin Djawadi คนทำดนตรีประกอบให้กับ Game of Thrones ทั้งซีรีส์รวมถึง opening credits ในตำนานของเรื่องนี้และซีรีส์ Westworld จะกลับรับงานในซีรีส์เรื่องนี้อีกครั้ง
- ซีรีส์มาทุกวันจันทร์ 8 โมงเช้าทาง HBO GO มีทั้งพากย์ไทยและซับไทยค และด้วยเรื่องราวจะเป็นการย้อนเหตุการณ์ภาคก่อนหน้า สำหรับคนที่เคยดู Game of Thrones มาก่อนจะอินมากยิ่งขึ้น ส่วนคนที่ยังไม่เคยดูมาเลยก็สามารถดูรู้เรื่องโดยเริ่มจากซีรีส์เรื่องนี้ได้เลย
ทุกท่านติดตามชม House of The Dragon รวมถึงมหากาพย์ซีรีส์ศึกชิงบัลลังก์อย่าง Game of Thrones ครบทั้ง 8 ซีซั่น และ ซีรีย์ฝรั่ง ออริจินัลซีรีส์เรื่องอื่นๆอีกมามาย พร้อมลิสต์หนังใหม่น่าดูและซีรีส์ฟอร์มยักษ์ให้ชมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2022 ได้ทาง HBO GO